การสอนภาษาอังกฤษให้ลูก วัย 0-3 ขวบ ตอนที่ 2 (ช่วงอายุ 13-24 เดือน)






ในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาทองของการสะสมคำศัพท์เลยทีเดียวค่ะ ในปีเดียวนี้ลูกชายเราสะสมคำศัพท์ภาษาอังกฤษเข้าไปเกือบ 1 พันคำเลยทีเดียว แต่เค้าพูดเป็นประโยคไม่ได้นะคะ พูดออกมาเป็นคำๆ เวลาถามก็ตอบเป็นคำๆ ทำยังไง?




อย่างที่เราบอกไปในทุกๆบทความนะคะ ว่านี่เป็นวิธีที่เราใช้กับลูกเรา ได้ผลกับลูกเรา และมันยังมีวิธีอื่นๆอีกหลายทางที่จะไปสู่จุดหมายเดียวกันค่ะ แต่เราไม่ทราบ เราแชร์เฉพาะในส่วนที่เราทำนะคะ


ข้อ1) เราไม่ใช้ flash card หรือบัตรคำที่มีรูปภาพเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชนิดแฟลชเร็วหรือแฟลชช้า เราไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะคะ เพียงแค่เราไม่ได้ค่ะ ถ้าอยากให้ลูกเห็นอะไรเราก็จะพาไปดู อยากให้ลูกได้อะไรเราก็จะพาทำ มีแค่นั้นค่ะ


บ้านนี้สอนคำศัพท์ด้วยการให้เห็นของจริง พาไปดู ถ้ามันไปดูไม่ได้ก็ใช้หนังสือนิทาน เพราะในหนังสือนิทาน 1 หน้า มีอะไรอยู่ในภาพตั้งหลายอย่าง เด็กๆสามารถเชื่อมโยงสภาพแวดล้อมของสิ่งของในภาพได้ รวมถึงจินตนาการต่อได้ดี ในขณะที่ flashcards เป็นภาพที่อยู่แบบโดดเดี่ยว จึงยังไม่ตอบโจทย์เราเท่าไหร่ เนื่องจากสิ่งที่เราต้องการคือให้ลูกสื่อสารภาษาอังกฤษได้ค่ะ ส่วนถ้าใครจะใช้เพื่อกระตุ้นสมองซีกขวา หรืออะไรอื่นๆนั่นก็อีกเรื่องหนึ่งค่ะ ไม่ใช่ประเด็นที่เราพูดถึงค่ะ



ข้อ1) เราไม่ได้สอนให้ท่อง A-Z เราเพิ่งมาสอนให้ท่องตอน 3 ขวบค่ะ ไม่มีการอ่าน เขียนหรือสะกดคำใดๆในช่วงเวลานี้ เราแค่พูดเท่านั้น เราทำอยู่ 3 อย่างคือ 1.พูด 2.เล่านิทาน 3.พาไปทำ เช่น จะปลูกผักก็ปลูกให้ดูเลย แล้วอธิบายการปลูกเป็นภาษาอังกฤษเลย


พูดอย่างไร? พูดเหมือนพูดภาษาไทย พูดทั้งประโยคเลยค่ะ อาจมีการตัดทอนให้สั้นลงบ้างแต่รูปประโยคต้องสมบูรณ์ ไม่พูดทีละคำ หลายคนกังวลว่าพูดยาวลูกจะจำไมได้ ไม่ต้องห่วงนะคะ ลูกเค้าจำได้ค่ะ แต่เค้ายังพูดไม่เก่ง ดังนั้นเราจะเห็นว่า เวลาเราป้อนเข้าไปเราป้อนเป็นประโยค แต่เวลาเค้าตอบกลับมาเค้าตอบ 1-2 คำ มันเป็นเรื่องธรรมดามากค่ะ เราแค่อดทนรอ วันนึงเค้าจะตอบเป็นประโยคออกมาเลย


เล่านิทานก็เล่าเป็นภาษาอังกฤษเลยค่ะ แต่อย่าพูดอยู่คนเดียวค่ะ ถามลูกบ้าง ให้ลูกมีส่วนร่วมในการคิด ในการตอบ เค้าจะได้พูดเยอะๆ คำถามก็ตามวัยนะคะ เช่น


- What is this?
- What is she doing? คำถามนี้ลูกเราได้ตอน 2 ขวบ
- Where are you going? คำถามนี้ลูกเราได้ตอน 2 ขวบ
- ช่วงนี้เค้าตอบ yes, no, ok ได้แล้ว ดังนั้นเราควรถาม yes/no question เยอะๆค่ะด้วยค่ะ


คลิปนี้เป็นคลิปที่เราเล่านินทานให้ลูกฟังตอน 1 ขวบ 8 เดือนค่ะ ฝากให้ดูเผื่อได้เป็นแนวทางค่ะ






ถ้าลูกออกเสียงผิดทำไง? 

- ปล่อยไปก่อนนะคะ เค้ายังพูดไม่ชัดเราแค่ออกเสียงให้เหมือนเดิมทุกครั้ง วันนึงเค้าจะออกเสียงถูกเองค่ะ อย่าเพิ่งรีบไปว่า ไปปรามเค้านะคะ เค้าจะเสียความมั่นใจ และอาจจะไม่อยากพูดภาษาอังกฤษอีก

ถ้าลูกพูดปนกันสองภาษาทำไง?

- เรื่องปกติค่ะ เค้าคิดคำไหนได้ก่อนเค้าจะพูดคำนั้นออกมาค่ะ เด็กไม่ซับซ้อน

เราถามภาษาอังกฤษลูก แต่ลูกตอบเป็นภาษาไทยอย่างเดียวเลย?

- เรื่องนี้เทคนิคน่าจะแตกต่างกันไปในแต่ละบ้านค่ะ การบอกลูกว่าอย่าตอบภาษาไทย ให้ตอบภาษาอังกฤษ อาจใช้ได้สำหรับเด็กบางคนเท่านั้น อย่างลูกเราเนี่ยวิธีนี้ไม่ได้ผลค่ะ เราใช้วิธีปล่อยค่ะ ปล่อยเค้าไป 55555 อยากตอบภาษาไทยก็ตอบไป แต่เราก็พูดภาษาอังกฤษกลับไปอยู่ดี มันจะมีอยู่ช่วงนึงเลยที่เราพูดอังกฤษและลูกพูดไทย พูดกันคนละภาษา แต่เราไม่เคยว่าลูกเลยว่าทำไมไม่พูดภาษาอังกฤษเหมือนแม่ เราแค่รอ รอจนกว่าเค้าจะพร้อมที่จะพูดมันออกมาเอง หลายเดือนเหมือนกันค่ะที่เรารอ แต่มันได้ผลค่ะ ทุกวันนี้ลูกเป็นฝ่ายพูดภาษาอังกฤษกับเราก่อนแทบทุกครั้งค่ะ


ใครมีคำถามพิมพ์ถามใต้ comment ได้เลยนะคะ เราจะได้รู้ว่า แม่ๆอยากรู้เรื่องอะไรกันบ้าง เราจะตอบให้ในเม้นเลย และเราจะได้มีหัวข้อเขียนเพิ่มในบทความต่อๆไปด้วยค่ะ

ประโยคที่ควรถามบ่อยๆเพื่อกระตุ้นการพูด

What is ..........?
Where is .............?
Do you want.............. ?
Would you like to..................?
Do you like ..................?


สู้ๆนะคะทุกคน!

อ่านเนื้อหาบทความตอนเกริ่นนำ ได้ที่ http://bit.ly/2vOd7e5
อ่านเนื้อหาบทความตอนที่ 1 ได้ที่ http://bit.ly/2Wt129W
อ่านเนื้อหาบทความตอนที่ 2 ได้ที่ http://bit.ly/2w7O7yC
อ่านเนื้อหาบทความตอนที่ 3 ได้ที่ http://bit.ly/2Xep1d6

อ่านเนื้อหาบทความตอนที่ 4 ได้ที่ http://bit.ly/2XLJdDm



#ก็อบปี้บทความไปกรุณาให้เครดิต
#เพจสวัสดีชาวลูก



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น