ประสบการณ์ พาลูกพบจิตแพทย์เด็ก เพื่อประเมินพัฒนาการ


เนื่องจากเราเป็นคุณแม่ Full Time เลี้ยงลูกเอง อยู่กับลูกตลอด ดังนั้นเราจึงได้เห็นถึงลักษณะนิสัย ท่าทาง อากัปกิริยาต่างๆของลูกทั้งหมด หลายครั้งเราก็พบว่าลูกเราไม่ค่อยเหมือนคนอื่น อันนี้เราไม่ได้พูดในเชิงว่าจะไปเปรียบเทียบกับลูกของคนอื่นนะคะ เด็กทุกคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่มันจะมีบางอย่างที่คนเป็นแม่จะสังเกตได้ว่า อืม มันแปลกๆนะ




1.เป็นคนปรับตัวยาก เช่น ไปโรงเรียนใช้เวลาเป็นปีในการปรับตัว ร้องไห้ 1 ปี


2.ไม่ชอบเข้าร่วมกิจกรรมกับคนหมู่มาก จะแยกตัวออกไปคนเดียว

3.ไม่ทำตามคำสั่ง ระเบียบแบบแผน ไม่สนใจฟัง แต่จดจำได้ บางทีก็จำแม่นเวอร์

4.เลือกเล่นและคุยกับผู้ใหญ่ หรือคนที่โตกว่า

5.มีทักษะทางด้านภาษาสูง พูดและใช้คำยากๆที่นอกเหนือจากคำในชีวิตประจำวันได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พูดคล่องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยที่แม่ไม่ได้สอนอะไรมากมายเลย คำศัพท์ภาษาอังกฤษครึ่งนึงที่ลูกรู้ แม่ไม่ได้สอน (รู้ภาษาอังกฤษมากกว่า 3 พันคำเมื่อตอน 4 ขวบ และใช้งานได้จริง เล่นเรื่องเป็นภาษาอังกฤษได้ยาวๆตั้งแต่ 3 ขวบครึ่ง)

6.มีคนบอกว่าลูกเราไม่เหมือนชาวบ้านหลายคนจนเราต้องเก็บมาคิด

7.มีความสนใจเป็นพิเศษเฉพาะด้าน และรู้รายละเอียดของสิ่งนั้นแบบเชิงลึกกว่าเด็กในวัยเดียวกัน รวมถึงมีจินตนาการและการพลิกแพลงในการนำไปใช้ เช่น สนในรถก่อสร้างต่างๆ รู้จักชื่อมันทุกชิ้นส่วน ชื่อน็อตยังจำได้

8.อยู่ในห้องเรียนไม่สนใจเรียนเลยไม่ว่าวิชาการ ดนตรี กีฬา วื่งไปวิ่งมา และหยุดไมไ่ด้ ไปเรียนเปียโนก็ตีลังกาไปมา มุดใต้โต๊ะ ตะโดนเสียงดัง ไปเรียนฟุตบอลก็วิ่งหนีออกนอกสนามทั้งๆที่บอกว่าชอบฟุตบอลนะ ทุกอย่างที่ให้เรียนคือลูกชอบ แต่ก็นั่นแหละ 555

9.เล่นของเล่นอะไรที่คนอื่นเค้าไม่เล่นกัน เช่น แมลงสาบ งู 

10.ชอบดูสารคดี และดูสารคดีภาษาอังกฤษรู้เรื่อง สนใจเรื่องกลไก การทำงานของเครื่องยนต์ สัตว์ทะเลน้ำลึก และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิด

เอาล่ะ ไปปรึกษาหมอเถอะ 5555 แม่ปวดหัว แม่อยากได้แนวทาง แม่อยากเข้าใจเค้าให้มากกว่านี้ การที่เราไปหาหมอไม่จำเป็นว่าลูกเราจะต้องป่วยแล้ว เป็นโรคนั้นโรคนี้แล้ว แต่เราไปขอรับคำปรึกษาจากคุณหมอว่าเราควรดูแลเขาอบ่างไรในแบบที่เขาเป็น เราอยากคุยกับหมอมาก เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาการเลี้ยงลูก

และแล้ว วันนั้นก็มาถึง วันที่เราไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่ง 


"หมอมี 2 ช้อยส์นะคุณแม่ ถ้าไม่เป็นออทิสติก ก็เป็นเด็ก Gifted" ประโยคนี้เหมือนฟ้าผ่ากลางใจอิแม่ จึงถามหมอว่ามีช้อยส์ "ปกติ" มั้ยคะ หมอบอกว่า ไม่ปกตินะ ต้องทดสอบ



วินาทีนั้นหัวใจเต้นแรงมากเลย ใจไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วอะ อยากร้องห้าาายยยย.... คำพูดของคนอื่นๆที่บอกว่าลูกเรา "ไม่เหมือนชาวบ้าน" พรั่งพรูเข้ามาในหัว


เราคุยกับหมอ+ทดสอบนานกว่า 1 ชั่วโมงเลย


และแล้วคุณลูกก็ถูกเรียกเข้ามาทดสอบในห้อง ทดสอบหลายอย่างและนานมาก อิแม่ก็ใจเต้นตุบๆ ลุ้นตลอดเวลา ลูกก็ให้ความร่วมมือในการทดสอบดี


แล้วคุณหมอก็บอกว่า "ไม่เป็นออทิสติก" เย้... แต่มีความฉลาดในบางด้านมากกว่าเด็กทั่วไป มีความติสต์สูง เข้าข่าย Gifted และมีความเป็นผู้นำ เราต้องเข้าใจเค้า ไม่โปรแกรมเค้า บางเรื่องที่เค้าอินดี้ก็คงต้องปล่อยบ้าง


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความ Gifted มันไม่เสมอไปว่ามันจะอยู่กับเด็กไปตลอด มันอาจถดถอยหรือก้าวหน้าก็ได้ ก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูนับจากนี้ อย่าให้มากหรือน้อยจนเกินไป สิ่งสำคัญที่เค้าควรได้รับในวัยเด็กต้องไม่ขาดแคลน

"สรุปว่า เค้าแค่อินดี้"

ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับผลลัพธ์ที่ออกมา แต่อย่างน้อยเค้าก็ไม่ได้เป็นในสิ่งที่เรากังวล ณ วันนี้ มันก็โล่งใจขึ้น จากนี้ก็ต้องปรับแนวทางการเลี้ยงดูกันต่อไป ให้เข้ากับความอินดี้ของเค้า 555

หลายคนถามเราว่าทำไมต้องพบแพทย์ อ่านในเนตก็มีหมอจิตเวชเขียนไว้หลายเคส ก็เอามาเทียบ เอามาปรับใช้สิ เราจะบอกว่าเราอ่านแล้ว อ่านเยอะมากๆด้วย แต่ด้วยความที่ลูกเราไม่ค่อยเหมือนคนส่วนใหญ่ เนื้อหามันจึงไม่ตรงกับสิ่งที่เราเป็นและอยากรู้ ในความคิดเห็นเรานะ ถ้ามีเวลาและสะดวกตังค์ คุยกับคุณหมอสักครั้งก็ไม่เสียหลายนะคะ (เราคุย 2 ครั้งล้ว)

ต้องขอบคุณคุณหมอที่แนะนำ และให้ความรู้กับเราหลายอย่าง พร้อมทั้งเตือนสติเราในบางเรื่องด้วย คุณหมอคือดีงามมากๆๆๆๆๆ แม่ได้อะไรเยอะมากจากการที่ได้คุยกับคุณหมอ รวมถึงยังได้ปลดล็อกเรื่องทางใจบางอย่างที่เราสับสนและค้างคามานาน

จึงแชร์ไว้เป็นวิทยาทานให้กับท่านอื่นนะคะ


ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น