การเรียนรู้ที่แท้จริงไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเราบอกลูกว่าต้องทำอะไร แต่เกิดขึ้นเมื่อเราเปิดพื้นที่ให้ลูกได้ตั้งคำถาม เพราะความสงสัยของวันนี้จะนำไปสู่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า
คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตไหมคะ เวลาที่เราเล่านิทานให้ลูกฟัง เด็กๆมักจะหยุดเรากลางทางแล้วถามคำถามที่เราอาจนึกไม่ถึง เช่น
"ทำไมดวงดาวถึงมีแสงระยิบระยับ?" หรือ
"น้ำในทะเลมาจากไหน ทำไมมันถึงเค็ม?"
ตอนแรกเราอาจรู้สึกว่าคำถามเหล่านี้ทำให้เสียเวลาหรือออกนอกเรื่อง แต่จริงๆแล้วคำถามที่แสนจะธรรมดานี่แหละคือจุดเริ่มต้นสำคัญของการเรียนรู้ค่ะ
จากงานวิจวิยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Educational Psychology ระบุว่า การตั้งคำถามช่วยกระตุ้นให้เด็กมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาได้ดีกว่าการบอกหรือสั่งให้ทำตามเพียงอย่างเดียว การศึกษายังชี้ให้เห็นว่าเด็กที่ได้รับการสนับสนุนให้ตั้งคำถามอย่างอิสระมักแสดงความคิดสร้างสรรค์ มีแรงจูงใจในการเรียนรู้ และกล้าที่จะลองผิดลองถูกมากกว่าเด็กที่ถูกสอนให้ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
ยกตัวอย่างของบ้านเรานะคะ มีครั้งหนึ่งลูกของเราถามว่า "ทำไมน้ำแข็งถึงลอยอยู่บนน้ำ?" แทนที่จะรีบตอบไปตรงๆ เรากลับถามลูกกลับว่า "หนูคิดว่าเพราะอะไรล่ะ?" จากคำถามเล็กๆนี้ ลูกได้ค้นพบคำตอบด้วยการลองทำการทดลองในครัวด้วยตัวเอง สิ่งที่ล้ำค่ากว่าคำตอบนั้น คือความสุขและความภูมิใจที่ลูกได้เรียนรู้และค้นพบด้วยตัวเอง
สำหรับบ้านเราแล้ว คำถามของลูกมีค่ามากกว่าคำตอบที่เราสอน ความสงสัยของลูกคือสมบัติที่มีค่าที่สุด เพราะเป็นตัวจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นและการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด คำถามของลูก คือกุญแจสำคัญที่เปิดโลกใบใหม่ ไม่ใช่แค่สำหรับตัวเขาเอง แต่ยังเป็นการเปิดโลกให้พ่อแม่ได้เห็นมุมมองใหม่ๆไปพร้อมกันด้วย
มาสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกได้กล้าถาม กล้าคิด และกล้าเรียนรู้ เพราะวันหนึ่ง เขาจะเติบโตเป็นคนที่มีความสามารถและมีความสุขจากการค้นพบโลกด้วยตัวเขาเอง
0 ความคิดเห็น