การสอนภาษาอังกฤษให้ลูก วัย 0-3 ขวบ ตอนที่ 3 (ช่วงอายุ 2-2.5 ขวบ)







สวัสดีค่ะ เดินทางมาถึงตอนที่ 3 แล้วนะคะ ต้องขออภัยที่เราไม่ได้เขียนบทความติดๆกัน เดือนนึงอาจจะดได้แค่ 3 บทความ เนื่องจากติดภาระกิจและยังต้องดูแลลูกด้วย แต่จะพยายามเขียนให้ครบถ้วนและต่อเนื่องมากที่สุดค่ะ


มาเริ่มกันเลยค่ะ นี่คือบทสนทนาของเรากับลูกเมื่อตอนที่ลูกอายุ 2 ขวบ 4 เดือนค่ะ เราไม่ได้จำได้หรอกค่ะ แต่เราเขียนบันทึกเอาไว้แล้วก็อปปี้มาค่ะ

Mommy : What colour is this car?
Shutter : It’s purple.

Mommy : No, it’s not purple. Try again.
Shutter : I don’t know.

Mommy : It’s a red car.
Shutter : Ok, red car.

Mommy : What are you doing?
Shutter : Shutter is smiling.

Mommy : What are you holding?
Shutter : Spring.

Mommy : What would you like to play?
Shutter : I want to play outside. 

Mommy : Ok, Let’s go!



จะเห็นว่า หากเราเริ่มคุยภาษาอังกฤษกับลูกมาตั้งแต่แรกเกิด มาถึงช่วงวัยนี้เค้าจะสามารถพูดตอบโต้กับเราเป็นประโยคภาษาอังกฤษได้แล้วนะคะ มันน่าชื่นใจม๊าาากกกก มันเหมือนความพยายามของเรามันสัมฤทธิ์ผลออกมาแล้ว โล่งใจได้ว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว


อย่างที่เราบอกไปในบทความก่อนหน้าว่า หากลูกตอบเป็นภาษาไทยให้อดทน อย่าไปต่อว่าเค้า อย่าไปกดดันให้เค้าพูดภาษาอังกฤษออกมา เมื่อวันนึงที่เค้าพร้อม เค้าจะพูดมันออกมาเองค่ะ ใครอดทนได้มากกว่าคนนั้นชนะค่ะ

สองประโยคนี้เราจะถามลูกทุกวันในช่วงอายุนี้ค่ะ

What are you doing?
Where are you going?

เปลี่ยนประธาน และสรรพนามไปเรื่อยๆนะคะ ไม่ได้ใช้แค่ you แต่ยังเริ่มใช้ I, you, we, they, he, she,it คือใช้หมดแหละค่ะ แต่ลูกยังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ รู้แต่ you กับ I 


ลูกเราพูดอะไรบ้างในช่วงวัยนี้?

My name is..............?
It's a .......................

I am + V.ing ..................
I want to .....................
I go to......................


รู้คำศัพท์เดี่ยวกับรูปร่างและสี 
รู้จักชื่อของรถก่อสร้างแทบทุกชนิดเป็นภาษาอังกฤษ

รู้จักคำกริยาพื้นฐานหลายๆคำ อันนี้แจกแจงไม่หมดจริงๆค่ะ 
สามารถใช้ a และ the ได้ แต่ยังสับสนเรื่องการใช้ an


เราตั้งคำถามด้วยการใช้ Can you............? ลูกตอบได้นะคะ แต่ยังไม่ตั้งคำถามแบบนี้ กว่าเค้าจะตั้งคำถามโดยใช้ Can you หรือ Can I คือตอน 3 ขวบเลยค่ะ 



คลิปตอนที่เล่านิทานกับลูก ชวงอายุ 2ขวบ 3เดือนค่ะ






ช่วงนี้จะชอบร้องเพลงมากๆๆๆๆๆ เป็นโอกาสทองที่แม่จะได้หาเพลง nursery rhymes มาให้ลูกร้องเยอะๆ ช่วยเรื่องความจำ และช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ได้ด้วยนะคะ


พูดถึงเรื่องการเพิ่มคลังคำศัพท์ การเพิ่มคลังคำศัพท์ที่ดี ไม่ใช่การท่องคำศัพท์ แต่เป็นการอ่าน การพูด การร้อง สำหรับครอบครัวเราแล้ว วิธีการเพิ่มคลังคำศัพท์ให้ลูกที่มีประสิืธิภาพมากที่สุด คือการอ่านนิทานค่ะ หนังสือนิทานที่บ้านมีมากกว่า 200 เล่มในช่วงก่อน 3 ขวบ และทุกเป็นภาษาอังกฤษล้วน ไม่ใช่นิทาน 2 ภาษา 


"แต่การอ่านนิทานให้ลูกฟังมันจะไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุดหากคุณอ่านแล้วให้ลูกฟังเพียงอย่างเดียว คุณต้องตั้งคำถามกับลูกด้วย ยิ่งถามมาก ลูกdHยิ่งมีการดึงคำศัพท์ในหัวไปใช้มาก เมื่อใช้มากก็จะเกิดความชำนาญ"



หนังสือนิทานอะไรบ้างที่เราใช้ เดี๋ยวเราจะทำคลิปรีวิวไว้ให้ หลังจากที่เราเขียนบทความทุกตอนจบแล้วนะคะ เพราะหนังสือมันเยอะมากๆๆๆๆๆ เราถ่ายรูปมาเขียนในบล็อกไม่ไหวค่ะ บทความมีอีก 1-2 ตอนก็จบแล้วค่ะ



แต่วันนี้จะแนะนำหนังสือชื่อ "บ้าน 100 ชั้น" มันเป็นหนังสือที่เราใช้ในการสอน Present Continuous Tense ให้กับลูก เพราะในหนังสือเล่มนี้มีบ้านหลังหนึ่งที่มีตั้ง 100 ชั้น แต่ละชั้นมีสัตว์ชนิดต่างๆอาศัยอยู่ และกำลังทำกิจกรรมบางอย่างอยู่ เราเปิดหนังสือ และตั้งคำถามว่า 

What are they doing? (สรรพนามเปลี่ยนเอานะคะ)

และพูดให้ลูกฟังว่าพวกเขาทำอะไรอยู่ในภาพ เช่น They are cooking. เป็นต้น คือเราถามเองตอบเองอยู่ 3-4 รอบค่ะ จากนั้นเราจึงเริ่มถามอย่างเดียวแล้วเงียบ รอลูกตอบ และแน่นอนว่าลูกตอบได้ค่ะ ตอบได้เป็นรูปประโยคที่ถูกต้องเลยค่ะ เด็กช่วงวัยนี้สอนง่ายจริงๆค่ะ


เสียดายเราหาคลิปตอนที่สอนเรื่องบ้าน 100 ชั้นไม่เจอ เอาไว้ถ้าหาเจอจะเอามาลงให้นะคะ


ลองดูนะคะ มีคำถาม หรืออยากให้เราเขียนอะไร พิมพ์คอมเม้นต์ไว้นะคะ ในนี้หรือใน facebook ก็ได้ค่ะ


เจอกันตอนหน้าจ้า





อ่านเนื้อหาบทความตอนเกริ่นนำ ได้ที่ http://bit.ly/2vOd7e5
อ่านเนื้อหาบทความตอนที่ 1 ได้ที่ http://bit.ly/2Wt129W
อ่านเนื้อหาบทความตอนที่ 2 ได้ที่ http://bit.ly/2w7O7yC
อ่านเนื้อหาบทความตอนที่ 3 ได้ที่ http://bit.ly/2Xep1d6
อ่านเนื้อหาบทความตอนที่ 4 ได้ที่ http://bit.ly/2XLJdDm




#ก็อบปี้บทความไปกรุณาให้เครดิต
#เพจสวัสดีชาวลูก

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น