สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับค่าความสามารถในการอ่าน (ภาษาอังกฤษ) หรือที่เเรียกว่า Lexile System กันค่ะ ซึ่งระบบ Lexile นี้เค้าคิดค้นขึ้นมาเพื่อวัดระดับความสามารถในการอ่านของนักเรียนแต่ละคนว่าไปถึงระดับไหนแล้ว เป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับครูและผู้ปกครอง อย่างที่อเมริกาจะมีหนังสือมากมาย บางทีเราก็เลือกไม่ถูกว่าจะให้ลูกอ่านเล่มไหนดี แต่ถ้าหากเรารู้ค่า Lexile หรือค่าความสามารถในการอ่านของลูก เราก็จะเลือกหนังสือมาให้ลูกอ่านได้เหมาะสมกับเลเวลของตัวเองค่ะ แม้แต่ผู้ผลิตหนังสือสำหรับเด็กรายใหญ่อย่าง scholastic ก็ยังมีการแบ่งระดับความยากง่ายของหนังสือด้วย Lexile Level ค่ะ
การประเมินที่ใช้ในการวัดระดับ Lexile มีหลากหลายรูปแบบด้วยกันนะคะ โดยมีตั้งแต่ระดับ BR หรือ Beginning Reader ไปจนถึงระดับสูง ซึ่งตัวเลขจะมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น นักเรียน grade 1 มักจะมีค่า Lexile อยู่ที่ 230L - 420L หรือเด็กโตอย่าง grade 10 ก็มักจะมีค่า Lexile อยู่ที่ 920L - 1120 L เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันไม่ได้เป็นการชี้เป็นชี้ตายว่าเรียนชั้นไหนต้องได้เท่าไหร่ค่ะ เราเพียงทดสอบเพื่อให้รู้ระดับความคืบหน้าของเด็กและเพื่อหาหนังสืออ่านให้เหมาะสมเท่านั้น
ในเว็บไซต์ Lexile.com เค้าจะมีแหล่งข้อมูลฟรี เกี่ยวกับหนังสือว่าแต่ละเล่มนั้นมีค่า Lexile อยู่ที่เท่าไหร่ เช่น
- หนังสือชุด Harry Potter จะมีค่า Lexile อยู่ที่ 880L - 950L
- The Chronicles of Narnia จะมีค่า Lexile อยู่ที่ 870L
- The Hobbit 1000L
- Pride and Prejudice – 1100L
- Jane Eyre 870L
ซึ่งถ้าเรารู้ว่าบุตรหลานของเรามีค่าความสามารถในการอ่านอยู่ที่เท่าไหร่ เราก็จะประเมินได้ว่าสามารถอ่านหนังสือชุดนี้ได้แล้วหรือยัง เราว่ามันมีประโยชน์มากทีเดียวค่ะ ทั้งนี้ การเลือกหนังสือจะดูที่ค่า Lexile อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูเนื้อหาและความสนใจของเด็กๆด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันค่ะ
วิธีการที่เราจะหาค่า Lexile ของเรานั้น จะต้องทำแบบทดสอบค่ะ หรือบางโรงเรียน บางสถาบัน หรือหลักสูตรโฮมสคูลบางแห่งของอเมริกา เค้าจะมีบริการวัดให้ค่ะ ของชัตเตอร์ตอนี้ 5 ขวบ มีค่า Lexile อยู่ที่ BR190L ค่ะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนอยากวัดอาจจะต้องลองเสิร์ชดูค่ะว่ามีทดสอบออนไลน์ได้ที่ไหนบ้าง ตรงนี้เราไม่ค่อยมีข้อมูลเนื่องจากของลูกเราได้รับการวัดมาจากหลักสูตรโฮมสคูลที่เรียนค่ะ
ยกตัวอย่าง app ที่ถ้าเราเรียนหนังสือผ่านแอพเหล่านี้แล้วเราจะทราบค่า Lexile ของเด็กๆโดยอัตโนมัติ (คือมันเป้นแอพสอนภาษาค่ะ ดังนั้นมันจะมี progress อยู่แล้วว่าเด็กเรียนถึงไหน และอ่านอะไรได้บ้างแล้ว และรายงานออกมาเป็นค่า Lexile ค่ะ ซึ่งต้องเรียนเป็นระยะเวลาหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ จะไม่ได้วัดแบบทดสอบแล้วรู้ผลทันทีทันใด)
- ABCmouse
- Reading Eggs
ส่วน app ที่เป็นเหมือนห้องสมุดรวบรวมหนังสือต่างๆ และบอกค่า lexile ของหนังสือเพื่อช่วยหาหนังสือที่เหมาะสมให้กับเด็กๆ ได้แก่
- BOOKR Class
- Classroom Library Company: Book Retriever
- FikesFarm
- ReadingIQ
การทดสอบจะมี 2 แบบ คือ Lexile reading measure และ Lexile text measure ถ้าถามว่าจำเป็นต้องวัดมั้ย ในความคิดเห็นของเรามองว่าถ้าเป็นไปได้ก็ควรวัด อย่างเราลองนึกภาพว่าถ้าเราต้องอ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษสักเล่มนึงเราจะเลือกเล่มไหนดี ถ้าเล่มที่หยิบมามันยากเกินไปเราก็จะอ่านไม่สนุก มีความเครียดและท้อแท้ มันจะดีกว่ามั้ยถ้าเราเลือกหยอบเล่มที่ตรงกับความสามารถของเราได้ ไม่ต้องอ่านไปเปิด dict ไป นั่งแปลนั่งจดแทบทุกบรรทัด การเลือกหนังสืออ่านให้ตรงกับศักยภาพของเราเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาต่อยอดความสามารถด้านการอ่านของเราเอง ถ้าเราเลือกเล่มที่ตรงกับระดับของเรา มีคำศัพท์ยากบ้างเป็นบางคำให้เราต้องค้นคว้า ก็เท่ากับว่าเราจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆไปทีละนิด เข้าใจไปทีละสเต็ป แบบนี้อ่านแล้วจะสนุกกว่าและมีกำลังใจในการอ่านเล่มใหม่มากกว่า
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ
0 ความคิดเห็น