สอนภาษาอังกฤษให้ลูก (เด็กเล็ก) ด้วยตัวเอง ทำยังไง

อย่างแรกให้มองถึงวัตถุประสงค์ในการเรียนก่อน สำหรับเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ โดยมากแล้วจะเรียนฟัง-พูดก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นค่อยตามด้วยการอ่าน และการเขียนตามลำดับ การสอนให้อ่านเขียนก่อนมักไม่ได้ผล




การเรียนฟัง-พูด


ในเด็กเล็กนั้น เป็นที่น่าทึ่งว่า เด็กๆสามารถจดจำคำศัพท์ใหม่ๆได้ดี จำได้เป็นพันๆคำต่อปีหากมีการนำไปใช้ในสถานการณ์จริง ขอย้ำตรงนี้ว่า ใช้ในสถานการณ์จริง ถ้าหากที่บ้านไม่ค่อยมีสิ่งแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษ ก็ต้องสร้างเอง เช่น ในบ้านต้องมีคนพูดภาษาอังกฤษกับลูก 1 คน ขอแค่ 1 คนพอค่ะ คุยด้วยทุกวัน และเล่านิทานภาษาอังกฤษให้ฟังทุกวัน แค่นั้นเอง ฟังดูง่ายมั้ยคะ ฟังดูง่าย แต่ทำยากมากเลยค่ะ เพราะส่วนใหญ่ทำผิดวิธี ผิดอย่างไร มาดูกัน


1. ผู้ใหญ่คุยอย่างเดียว ไม่ถามเด็ก คนเล่านิทานก็เล่าอยู่นั่นแหละไม่ดูหน้าลูกเลย เล่าไปจนจบเล่มไม่ถามลูกเลยซักคำถามเดียว เด็กก็ขาดประสบการณ์ในการพูดโต้ตอบ พอถึงเวลาจะใช้งานจริงก็เลยติดๆจัดๆ พูดไม่ค่อยออกหรือขาดความมั่นใจ 


**การสร้างประสบการณ์ในการสร้างประโยคให้กับเด็ก ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนการสอน**


หรือบางบ้านเอาหนังสือภาพหรือบัตรคำมาให้ลูกดูแล้วชี้บอกว่าแต่ละคำเรียกว่าอะไร บางทีก็ถามเด็กกลับให้เด็กชี้หาคำตอบของคำศัพท์นั้น เด็กได้อะไรนอกจากจำคำแปลของคำนั้นๆได้ เด็กยังคงขาดประสบการณ์ในการสร้างประโยคอยู่ดี เพราะบัตรคำไม่มีเรื่องราวให้คิดต่อ 


ถ้าเราลองเปลี่ยนเป็นอ่านหนังสือนิทาน แล้วผู้ใหญ่ตั้งคำถามกับเด็กเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องหน้าละ 3 คำถามขึ้นไปให้เด็กตอบ แบบนี้เด็กจะพัฒนาการคำศัพท์และการสร้างประโยคของเด็กได้มาทีเดียวค่ะ อ่านทุกวันแบบนี้ซัก 6 เดือน เราจะเห็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดดเลยค่ะ จากนั้นทำต่อไปเรื่อยๆ หลายๆปีค่ะ อย่าเพิ่งท้อ


วางบัตรคำไว้ก่อนนะคะ เอาไว้ใช้ตอนเรียนเขียนอ่านก็ยังทันค่ะ


2. เอาตำราเรียนมาสอน อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเด็กไม่ชอบ มันไม่สนุกเหมือนอ่านนิทาน น่าเบื่อ บางบ้านเอาชีทแบบฝึกหัด ABC มาให้ลุกทำระดับ 100+ หน้า สำหรับเด็กแล้วมันเหนื่อยและมันไม่สนุกค่ะ ไว้ใช้ประถมก็ยังทันนะคะ


การเรียนอ่านเขียน


ปัจจุบันเรานิยมเรียนแบบ Phonics ซึ่งเป็นระบบที่ดีมาก สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ 4 ขวบ แต่หากเด็กบ้านไหนยังไม่พร้อมก็ไม่ได้ผิดอะไร เริ่ม 7 ขวบก็ยังได้ค่ะ ไม่กดดัน ดูตามความพร้อมของลูกเราเป็นสำคัญ


ลำดับขั้นตอนของการสอน Phonics ให้ลูก มีอะไรบ้าง 1 2 3 4 เราเขียนไว้แล้ว คลิกอ่านที่นี่


สอน Phonics ให้ลูก ไม่ต้องซื้อหนังสือแพงๆก็ได้นะคะ การเลือกหนังสือต้องเลือกให้เป็น หากไม่เคยเรียนมาก่อน ต้องหาหนังสือประเภท Pre-Reading มาก่อน เพราะบางคนมีปัญหาว่าซื้อหนังสือ Phonics เจ้าดังมา ขนาดว่า Level 1 แล้ว ทำไมดูยากจัง คือหนังสือบางเจ้ามีเลเวลที่ก่อนเลเวล 1 อีกค่ะ แนะนำว่าหนังสือสำหรับ Native Speaker คือดีที่สุดค่ะ


หรืออีกวิธีหนึ่งคือการ download ชีทฟรีที่มีแจกอยู่ทั่วไปตามอินเตอร์เน็ตก็ได้ค่ะ และเหมือนเดิม ให้เริ่มที่ Pre-Reading ก่อนค่ะ บ้านนี้ใช้หนังสือด้วย ใช้แอพด้วย และใช้ชีทที่โหลดมาจากเนตด้วยควบคู่กันไปค่ะ


ปัญหาของหนังสือ Phonics หลายๆแบบที่มีขายในเมืองไทย หลักๆเลยก็คือ ไม่มี Teacher Guide คนเป็นแม่อุตส่าห์ไปซื้อหนังสือมามากมาย สุดท้ายแล้วมานั่งเกาหัวแกรกๆเพราะไม่รู้จะสอนยังไง เราเลยจะบอกว่าให้ไตร่ตรองให้มากก่อนจะซื้อ หากเราไม่ได้มีอาชีพทางด้านการสอนโดยตรง แนะนำให้ซื้อหนังสือที่มีวิธีสอนมาให้เราด้วย เพราะนอกจากจะมีวิธีสอนแล้ว ยังมีลำดับขั้นตอนที่ถูกต้อง พร้อมอุปกรณ์ตัวช่วยอีกมากมาย แบบไม่แพงก็มีค่ะ แต่หายากหน่อย เดี๋ยวเราจะรีวิวอันที่เราใช้ไว้ให้ในตอนต่อๆไป ติดไว้ก่อน ติดไว้หลายเรื่องละ 5555


เอางี้นะคะ ใครสนใจวิธีการสอน Phonics ที่เราใช้ได้ผลกับลูกเรา เอาแบบตามรอยเลย อยากทำตามบ้าง เขียนเม้นต์ไว้นะคะ ถ้ามีคนอยากรู้จริงๆเราจะได้รีบมาเขียนให้ค่ะ หรืออยากรู้เรื่องอะไรก็เม้นต์บอกได้เลยนะคะ



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น